ทุกเช้าของใครหลายๆคน ตัวช่วยในการชาร์จพลังงานร่างกายให้สดชื่นไปตลอดทั้งวันคงหนีไม่พ้นคาเฟอีนที่มาในรูปแบบเครื่องดื่มต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น กาแฟ ชา เครื่องดื่มชูกำลัง โคล่า 🌤
แน่นอนว่าคนส่วนมากที่ดื่มเครื่องดื่มเหล่านี้เป็นประจำ ก็ย่อมจะทำให้เกิดผลเสียกับร่างกายได้เหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของปริมาณคาเฟอีน ปริมาณน้ำตาล และโรคภัยที่จะตามมาทีหลัง เช่น โรคเบาหวาน และโรคอ้วน รวมถึงอาการนอนไม่หลับ เกิดความวิตกกังวล เนื่องจากเสพติดคาเฟอีนเกินปริมาณที่ควร
แล้วจะทำยังไงละ? ให้การดื่มคาเฟอีนมีผลดีกับร่างกายคุณมากที่สุด
การดื่มคาเฟอีนให้พอดีกับความต้องการของร่างกายในแต่ละวัน ควรบริโภคไม่เกินวันละ 400 มิลลิกรัม
1 ☕️กาแฟประมาณ 1 แก้ว ปริมาณคาเฟอีนจะอยู่ที่ 75 - 200 มิลลิกรัม
แต่ละชนิด และการชงจะมีปริมาณคาเฟอีนที่แตกต่างกันออกไป
- กาแฟถ้วยปรุงสำเร็จ = 75 - 150 มิลลิกรัม
- French Press = 80 - 135 มิลลิกรัม
- Drip Coffee = 165 มิลลิกรัม
- Pour-Over = 175 มิลลิกรัม
- กาแฟสกัดเย็น = 155 มิลลิกรัม
2 💪🏻เครื่องดื่มชูกำลัง 2 ขวด ปริมาณคาเฟอีนจะอยู่ที่ 70 -100 มิลลิกรัม
3 🥤โคล่า 1 กระป๋อง ปริมาณคาเฟอีนจะอยู่ที่ 35 - 45 มิลลิกรัม
ถ้าพูดถึงข้อดีคาเฟอีนทำให้สมองทำงานได้ดีขึ้น ช่วยเพิ่มสมรรถภาพร่างกาย ช่วยให้ระบบเผาผลาญทำงานได้ดีขึ้น และในเรื่องของโรคภัยยังสามารถช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดนิ่วในถุงน้ำดีและ โรคซึมเศร้าได้
นอกจากจะต้องคำนึงถึงปริมาณคาเฟอีนแล้ว สิ่งที่ควรคำนึงอีกสิ่งคือปริมาณนํ้าตาล แน่นอนว่าเครื่องดื่มแต่ละชนิดมักมีส่วนผสมของนํ้าตาลอยู่แล้ว อย่ามองข้ามเรื่องนี้กันล่ะ รู้แบบนี้แล้ว สำหรับผู้ที่ดื่มเครื่องดื่มคาเฟอีนอยู่เป็นประจำควรบริโภคในปริมาณที่พอดี เพื่อสุขภาพที่ดี :)