เคยรู้สึกหมดไฟกันบ้างไหม? ❤️🔥🧯
Burnout Syndrome หรือ ภาวะหมดไฟในการทำงาน นั้นมีอยู่จริงและไม่ใช่เพียงอาการทั่วไปที่ควรปล่อยผ่าน องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้ขึ้นทะเบียน Burnout Syndrome ใน ICD-11 (International Disease Classification) ในปี 2019 ซึ่งทำให้คนเริ่มเห็นถึงความสำคัญในการดูแลและรับการรักษาจากภาวะนี้
ซึ่งใน ICD มีคำอธิบายเกี่ยวกับภาวะหมดไฟในการทำงานนี้ว่าเป็นปรากฏการณ์ในการทำงาน (occupational phenomena) โดยมีข้อจำกัดความว่าเป็นผลของอาการเครียดเรื้อรังในที่ทำงาน เป็นผลจากการไม่ได้รับการจัดการที่ดี ไม่เกี่ยวเนื่องกับความเครียดที่เกิดจากส่วนอื่นๆ ของชีวิต
ซึ่งมีทั้งอาการด้านร่างกายและจิตใจ สามารถแบ่งอาการออกเป็น 3 กลุ่ม ตามนี้
1) อาการเหนื่อยล้าและหมดพลัง
2) มีความคิดเชิงลบเกี่ยวกับงานที่ทำ
3) ประสิทธิภาพในการทำงานลดลง
ยิ่งในสถานการณ์ปัจจุบัน Burnout Syndrome อาจเป็นหนึ่งในภาวะที่ต้องเฝ้าระวังเลยทีเดียว ในการสำรวจของ The Chronical of Highter Education ในสหรัฐอเมริกา เจ้าหน้าที่ในองค์กรมีความรู้สึกเครียดกับงานมากขึ้นกว่า 2 เท่า จากผลสำรวจ 32% ในปี 2020 เมื่อเทียบกับ 69% ปี 2019 อีกทั้งเลขผลสำรวจของเจ้าหน้าที่ที่ประสงค์จะเปลี่ยนงานและเกษียณให้ไวขึ้นก็เพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน
ก่อนหน้านี้หลายๆ คนอาจมองข้ามอาการของภาวะหมดไฟนี้ไปได้ เพราะฉะนั้นการที่ภาวะนี้ถูกระบุเป็นภาวะทางการแพทย์น่าจะช่วยให้ทุกคนหันมาใส่ใจการดูแลสุขภาพของตัวเองในที่ทำงานมากขึ้น เพราะถ้าหากไม่เฝ้าระวังตัวเองอาการเครียดเรื่องรังนี้อาจมีผลกระทบในทางลบกับชีวิตมากขึ้นในอนาคต